หน้ากากเชื่อมไฟฟ้าโดยทั่วไปมักใช้กระจกกรองแสงเบอร์ 11 หรือ 12 ครับ
- เบอร์ 11 เหมาะสำหรับงานเชื่อมไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้กระแสไฟฟ้าไม่สูงมาก เช่น งานเชื่อมเหล็กบาง หรือ งานเชื่อมด้วยเครื่องเชื่อมขนาดเล็ก
- เบอร์ 12 เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ใช้กระแสไฟฟ้าสูงขึ้น เช่น งานเชื่อมเหล็กหนา หรือ งานเชื่อมด้วยเครื่องเชื่อมขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม การเลือกเบอร์กระจกกรองแสงที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ชนิดของงานเชื่อม งานเชื่อมแต่ละประเภทมีความเข้มของแสงและความร้อนที่แตกต่างกัน
- กระแสไฟฟ้าที่ใช้ กระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้น จะทำให้เกิดแสงและความร้อนที่เข้มขึ้น
- ความไวต่อแสงของแต่ละคน บางคนอาจมีความไวต่อแสงมากกว่าคนอื่น
ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่าควรใช้กระจกกรองแสงเบอร์ใด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือ เริ่มต้นจากเบอร์ที่ต่ำกว่า แล้วค่อยๆ เพิ่มเบอร์ขึ้น หากรู้สึกว่าแสงยังคงสว่างเกินไป
กระจกกรองแสง ทำมาจากอะไร
กระจกกรองแสงที่ใช้ในหน้ากากเชื่อมไฟฟ้านั้น โดยทั่วไปทำจาก กระจกพิเศษ ที่มีการเคลือบหรือผสมสารบางชนิด เพื่อให้สามารถกรองแสงและรังสีที่เป็นอันตรายจากการเชื่อมได้
สารที่มักใช้ในการผลิตกระจกกรองแสง ได้แก่:
- สารประกอบออกไซด์ของโลหะ เช่น ออกไซด์ของเหล็ก, แมงกานีส, โคบอลต์, นิกเกิล, ทองแดง ซึ่งจะช่วยดูดซับรังสีอินฟราเรดและอัลตราไวโอเลต
- สารประกอบแร่ธาตุ เช่น ซิลิกา, โซดาแอช, ปูนขาว ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนความร้อนให้กับกระจก
- สารประกอบอื่นๆ เช่น สารป้องกันรอยขีดข่วน, สารเพิ่มความใสของกระจก
กระบวนการผลิตกระจกกรองแสงโดยทั่วไป มีขั้นตอนดังนี้
- การเตรียมส่วนผสม นำสารต่างๆ มาผสมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม
- การหลอม นำส่วนผสมไปหลอมในเตาหลอมที่อุณหภูมิสูง
- การขึ้นรูป เทแก้วหลอมเหลวลงในแม่พิมพ์ หรือ ใช้กระบวนการรีดเป็นแผ่น
- การอบและการเคลือบ นำกระจกที่ขึ้นรูปแล้วไปอบในเตาอบ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และอาจมีการเคลือบสารเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองแสง
- การตัดและการขัด ตัดกระจกตามขนาดที่ต้องการ และขัดผิวให้เรียบ
กระจกกรองแสงแต่ละเบอร์จะมีความหนาและส่วนผสมของสารต่างๆ แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท
ข้อควรจำ: กระจกกรองแสงมีอายุการใช้งาน และอาจเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หากพบรอยแตกร้าว หรือ รู้สึกว่าแสงสว่างจ้าเกินไป ควรเปลี่ยนกระจกกรองแสงใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน