Table of Contents
0. เตรียมของให้พร้อม
ผมจะบอกว่า การที่จะเตรียมของให้พร้อมจริงๆนั้นกับงานช่างแล้ว เป็นอะไรที่ยากมากพอสมควร นอกจากว่าคุณจะมีเครื่องไม้เครื่องมือพรั่งพร้อมเหมือนช่าง หรือไม่เป็นเป็นช่างอะไรสักอย่างก่อนอยู่แล้ว ทำให้ขาดเหลืออะไรก็หยิบเครื่องมือออกมาจากในลังได้เลย
ฉนั้นหากอยากเตรียมพร้อมแบบวิ่งไปซื้อของมาทีเดียวเลย ให้อ่านจบก่อนสักรอบ แล้ววิ่งไปดูประตูบ้านของตัวเอง ว่าถ้าทำตามแล้วจะไม่เกิดปัญหาตามมาอีกที
อุปกรณ์ที่ผมใช้ในเรื่องนี้ก็จะมี
- ประแจเลื่อน 2 ตัว ใหญ่ตัวนึง เล็กตัวนึง
- มีที่อยู่ในครัว
- สเปรย์จารบีขาว (อันนี้กระป๋องละ 310 บาท)
- ล้อประตูรั้ว 3 นิ้ว กว้าง 1-1/4 รูน็อต 1/2 จำนวน 2 ตัว พอดีแตกแค่ 2 ตัวเลยเปลี่ยนแค่ 2 ตัว
- ไม่ยาวๆ 1 ท่อ
- หมอนไม้ เอามายกประตู
- มีผ้าเอาไว้เช็ดมือ เช็ดสนิม สักผืนก็ดี
1. เริ่มต้นสำรวจประตูบ้านกันก่อน
จากที่เจอลูกค้าเข้ามาถามมากมายทำให้ผมรู้ว่าแต่ละคนขาดอะไรบ้าง ทีนี้คนที่มาซื้อล้อประตูรั้วมีหลากหลายรูปแบบที่เข้ามา เช่น
คนที่ไม่รู้อะไรเลย
ไม่ว่าจะ หุน นิ้ว กว้าง ยาว สูง ช่างบอกให้ซื้อของก็เลยเริ่มหาข้อมูลใน Google อาจจะมาเจอเนื้อหาอันนี้ก่อนหรือหลังที่ซื้อของเสร็จแล้วก็ได้ จะบอกว่า กลุ่มนี้ต้องพึ่งช่างเยอะหน่อย เครื่องมือในการวัดอาจจะมีแค่ไม้บรรทัด อาจจะซื้อของผิดๆถูกๆได้ ความจริงถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ผมแนะนำให้จ้างช่างไปเลย
วิธีจ้างช่างก็คือ บอกเค้าไปตรงๆนี่แหละว่าประตูล้อหน้าบ้านมันฝืด รับบริการเปลี่ยนล้อให้ไหม ถ้าตกลงกันปกติแล้วก็จะไม่คิดมัดจำกันด้วย ช่างดีๆหน่อยก็จะนัดว่าวันใหนเมื่อใหร่ มีการติดตามนัดล่วงหน้าก่อนเข้าหน้างานจริงๆ เพราะเค้าไม่ซื้อของแล้วไปรอทำหรอก บ้านแต่ละคนขนาดก็ไม่ตรงกัน อาจจะมีมอเตอร์อัตโนมัติ รวมถึงพื้นทรุด ที่ล้อมันไม่หมุนหรือฝืดอาจจะเป็นเพราะอย่างอื่นทำให้ฝืดก็ได้
ถ้ามาตามนัด เค้าก็จะมาดูหน้างาน ตกลงกันเสร็จจะจ่ายก่อนไปซื้อของ หรือซื้อก่อนจ่ายค่าทำ ก็ตามตกลงกัน หลังจากไปซื้อของมา ถ้าเปลี่ยนล้อ ก็ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงเสร็จ
ค่าใช้จ่าย ก็คิดว่า ช่าง 1-2 คน จำนว 1 วัน + ค่าเดินทาง + ค่าของ อาจจะสัก 2000 ขึ้นไปอ่ะนะ
กลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถ
ขาดแค่แนวทางในการหาของมาเปลี่ยน ไม่ว่าจะเรียนอะไรมาก แต่รู้ว่ามันก็แค่ขันน็อต เปลี่ยนล้อและพอรู้ว่าตลับล้อฝืดคืออะไร กลุ่มนี้ให้วัดของให้ตรง ถ้ามีเครื่องมือ ลองแกะล้อออกมาเพื่อเช็ค หรือก็ลองตรวจดูก่อนว่าปัญหาคือล้อจริงๆใช่ไหม ถ้าจริงก็หาซื้อของแล้วลงมือโลด ไม่น่าจะติดปัญหาอะไร
กลุ่มช่างที่ทำงานประตูอยู่แล้ว
ถามจริงๆเหอะ ว่ามาอ่านแบบนี้ทำไม ไปทำงานได้แล้ว
2. เลือกซื้อล้อประตูมาใส่ให้ตรงขนาดเดิม
การเลือกซื้อล้อประตูนั้นหากจะแนะนำให้ง่ายและดีที่สุดนั่นก็คือ “เลือกซื้อให้เหมือนของเดิม” การซื้อขนาดเดิม แบบเดิม ทรงเดิม ร่องเดิม วัสดุเดิม ยิ่งถ้าได้ยี่ห้อเดิมได้ด้วยก็จะยิ่งดีมาเปลี่ยน จะทำให้เราไม่ต้องปรับอะไรอย่างอื่นเลย
ถามว่าปรับในที่นี่ปรับอะไรบ้าง
- ถ้าล้อเล็กลง ระดับจะเตี้ยลง หูช้างล็อคกุญแจจะไม่ตรงตำแหน่งเดิม ถ้ามีมอเตอร์ประตู ประตูก็จะแขวนบนมอเตอร์ จนเผลอๆหนักจนไม่หมุนจนพังอีก ตัวประคองที่ทำไว้พอดีหากประตูเตี้ยลง ก็อาจจะล้มลงมาทับคนได้
- หากล้อใหญ่ขึ้น ก็จะคล้ายๆกับเล็กลง คือระดับต่างๆเปลี่ยนไป การเปลี่ยนไปในทางที่สูงจะทำให้ติดขัดๆ อาจจะเลื่อนไม่สุดเพราะติดขอบบนของตัวกันล้มก็ได้ หากมีมอเตอร์ประตูก็ต้องตั้งค่ารางให้ลงมาลงฟันเฟืองพอดี ไม่งั้นก็เฟืองเสีย
ล้อประตูในแต่ละยี่ห้อ ก็จะมี ขนาดเส้นผ่านศุนย์กลางพอๆกัน อาจจะต่างกันนิดๆหน่อยๆ มีหน้กว้างพอๆกัน และมีรูน็อตพอๆกัน สิ่งที่ทำให้ระดับประตูต่างกันอีกก็จะมีความลึกของร่องล้อ หากหายี่ห้อเดิมไม่ได้จริงๆ ตอนที่เอาไปติดตั้งก็ต้องตั้งค่านิดๆหน่อยเพื่อให้ใช้งานได้ดี
หากต้องการจะเปลี่ยนทั้งเสื้อล้อ อันนี้ก็ต้องยากหน่อย เพราะต้องเอาของเดิมออก แล้วก็เอาอันใหม่เชื่อมเข้าไป งานทั้งหมดถ้าเชื่อมได้ก็โอเคเลย ทำเลยครับ
สิ่งที่จำเป็นต้องรู้ตอนเลือกล้อก็คือ
- เส้นผ่านศุนย์กลางล้อ ชอบเรียกหน่วยเป็นนิ้วกัน
- หน้ากว้างล้อ หน่วยเป็นนิ้วบ้าง มิลบ้าง ต้องเลือกซื้อให้ตรง ไม่งั้นอาจจะใส่เข้าไปในร่องเดิมมันไม่ได้
- รูน็อต อันนี้ต้องรู้ว่าใช้น็อตกี่หุน หรือกี่มิล ดีที่ในตลาดก็มีแค่ 3หุน กับ 4หุน เป็นส่วนใหญ่
- ร่องของราง ให้ดูล้อเดิมเป็นหลัก ว่ากลม หรือ เป็นฉาก
- วัสดุที่ใช้ทำล้อ เป็นล้อเหล็ก หรือ ล้อสแตนเลส หรืออาจจะเป็นซุปเปอร์ลีนสีขาวก็ได้
- อันนี้ตัวเสริมก็คือยี่ห้อ บางยี่ห้อก็มีประทับตราลงไป บางอันก็ไม่มี
3. เริ่มถอดล้อประตู
การจะถอดล้อประตูรั้วมาดูแล อย่าไปคิดว่าเราต้องถอดประตูออกมาทั้งบานนะครับ ทำให้มันเล็กเข้าไว้
แค่เอาไม้มาสอด แล้วงัดขึ้นให้ล้อมันลอยก็ได้แล้ว อาจจะลอยได้ไม่สูงมากเพราะติดตัวกันล้ม แต่ก็แต่แค่นี้ก็สามารถขันเปลี่ยนได้แล้ว
*** จะลองสอดแล้วยก เพื่อเช็คแต่ละลูกให้เสร็จก่อนก็ได้นะ จะได้ดูว่า แตกกี่ลูก หรือมันแค่ฝืด ***
ล้อลอยจากพื้นแล้ว เอามือหมุนดูได้เลย
จากนั้นก็เอาประแจถอดเลย
บางบ้าน อาจจะเจอช่าง เอาเครื่องเชื่อม เชื่อมหัวน็อตไว้ เพื่อไม่ให้น็อตคลายออกจากกัน มันเ้ป็นวิธีการที่ดีตอนติดตั้ง แต่ว่าถ้าเป็นคนมาเปลี่ยนล้อก็จะกุมขมับหน่อยน่ะครับ
เมื่อเกลียวของน็อตล้อเสียแล้ว วิ่งที่ต้องทำก็จะงอกเพิ่มขึ้นมา นั่นก็คือ การตัดน็อตเดิมออก เพื่อถอดล้อออกมา แล้วก็อย่าลืมซื้อน็อตใหม่มาด้วย
4. หยอดน้ำมันหล่อลื่น
ล้อประตูที่ขายในตลาดจะมีลูกปืนอยู่ข้างในเป็นตลับ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นที่มีฝาพลาสติกปิดอยู่ เราก้แค่เอาของแหลมๆ แงะฝาออกมาเลยครับ
ไม่ได้ยากเย็นอะไร แงะออกมาทั้ง 2 ด้านได้เลย
เมื่อเราเห็นใส้ในมัน เราก็จะรู้ได้แล้วแหละว่า มันแตกเพราะอะไร หรือมันแค่ฝืด หรือมีอะไรเข้าไปขัดในตลับ
ลองฉีดจารบีเพื่อหล่อลื่นแล้วหมุนมันก่อนเพื่อเช็คว่าแตกหรือไม่ก็ได้
เราควนใช้จาบรีนะครับ ไม่ว่าจะเป็นหลอด เป็นกระปุก สีใหนก็ได้ สำหรับประตูบ้านไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น
พยายามอย่าใช้พวก Sonax นะครับ มันไม่เหมาะ มันช่วยล้างคราบสนิมได้ดี แต่ว่ามันไม่ลื่น ถ้าจะใช้ก็ใช้ล้างคราบก่อน แล้วก็ฉีดจารบีลงไปเลย
ในที่นี่ผมใช้ WD-40 ที่เป็นจารบีขาวนะครับ อย่าซื้อผิดฉลาดนะ เอาไว้ใช้หล่อลื่นงานพวกบูซ แล้วมันก็จะกันน้ำด้วย ทำให้น้ำเข้าได้ยากขึ้น มีขายตามร้านต่างๆทั่วไปเลย
ตอนฉีด มันก็จะเข้าไปในร่องด้วย แล้วเราก็หมุนๆ ให้มันลื่นๆหน่อย
5. ใส่กลับที่เดิม
จากนั้นก็ใส่กลับไปที่เดิม
มาถึงตรงนี้ก็ไกล้เสร็จแล้ว ทำวนไปทุกๆล้อที่เรามี หรือถ้าจะทำแค่ล้อที่มีปัญหาก็ไม่ว่ากัน
ทีนี้ล้อประตูรั้วของเราก็วิ่งใหลลื่น ลื่นปี๊ดๆครับ ไม่งั้นถ้าทิ้งไว้นานๆ ปัญหาอื่นตามมาอีก
6. ทำความสะอาดก่อนจบงาน
เราเอามีทำครัวมาใช้งานมือที่โดนจารบีจับจนมีดเลอะไปทั้งอัน ก็เลยต้องล้างทำความสะอาดให้ดีนะ ใช้ผงซักฟอก หรือพวกน้ำยาล้างจานก็ได้ หากไม่หมดในรอบแรก ก็อาจจะต้องหลายๆรอบหน่อย
จารบีขาว ไม่เหนียมมาก น้ำยาล้างจานล้างไม่เกิน 2 รอบก็ล้างออกหมดแล้วครับ
เครื่องไม้เครื่องมือก็เช็ดล้างให้ดี จะได้ใช้งานได้นานๆ ส่วนสเปย์จารบีใช้งานไปรอบนี้ ถึงจะฉีดเยอะขนาดใหนก็ไม่หมดกระปุกแน่นอน ยังเก็บเอาไว้ฉีดอย่างอื่นได้อีกเยอะแยะ เช่นบูซประตูที่ต้องหมุนอยู่ตลอด หรือพวกตัวประคองประตูที่ต้องหมุนประคองบาน ก็สามารถ
สู้ๆนะทุกคน ขอให้ประตูลื่นๆ