DIN 8555 : E 3-UM-600 คืออะไร?
- DIN 8555 เป็นมาตรฐานเยอรมันที่กำหนดข้อกำหนดสำหรับลวดเชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมผิวแข็ง (hardfacing) ซึ่งเป็นกระบวนการเชื่อมที่เพิ่มชั้นของโลหะผสมที่มีความแข็งและทนต่อการสึกหรอบนพื้นผิวของชิ้นงาน เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานและความทนทานต่อการสึกหรอ การกัดกร่อน หรือแรงกระแทก
- E 3-UM-600 เป็นการจำแนกประเภทของลวดเชื่อมตามมาตรฐาน DIN 8555 ซึ่งบ่งบอกถึงคุณสมบัติและองค์ประกอบทางเคมีของลวดเชื่อม
คุณสมบัติของลวดเชื่อม E 3-UM-600
- เป็นลวดเชื่อมชนิดฟลักซ์หุ้มหนา (Thick coated electrode)
- ให้ค่าความแข็งของโลหะเชื่อมอยู่ที่ประมาณ 600 HB (Brinell Hardness Number) ซึ่งถือว่ามีความแข็งสูงมาก
- มีส่วนผสมหลักเป็นโครเมียมคาร์ไบด์ (Chromium carbide) ซึ่งให้ความทนทานต่อการสึกหรอจากการขัดสี (abrasion) และแรงกระแทก (impact) ได้ดีเยี่ยม
- เหมาะสำหรับงานเชื่อมผิวแข็งบนชิ้นงานที่ต้องรับแรงกระแทกสูงและการสึกหรอจากการเสียดสีของโลหะกับโลหะ รวมถึงการสึกหรอจากการเสียดสีกับวัสดุที่ไม่ใช่โลหะ (เช่น ดิน หิน ทราย)
- สามารถเชื่อมได้ทุกตำแหน่ง ยกเว้นแนวตั้งลง (vertical-down)
- โลหะเชื่อมมีความต้านทานต่อการแตกร้าวสูง และไม่มีรูพรุน
การใช้งานทั่วไปของลวดเชื่อม E 3-UM-600
- งานเชื่อมผิวแข็งบนชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงกระแทกและการสึกหรอสูง เช่น
- ฟันของรถขุด
- ใบมีดของรถตัก
- กรวยบด
- ค้อนทุบ
- ชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการก่อสร้าง
- ชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
- ควรใช้กระแสตรงชนิดขั้วบวก (DC+) ในการเชื่อม
- อาจจำเป็นต้องมีการอุ่นชิ้นงานก่อนเชื่อม (preheating) และการอบชิ้นงานหลังเชื่อม (post-weld heat treatment) เพื่อลดความเสี่ยงของการแตกร้าว และปรับปรุงคุณสมบัติเชิงกลของโลหะเชื่อม
- เนื่องจากมีความแข็งสูงมาก การตัดเฉือน (machining) โลหะเชื่อมอาจทำได้ยาก
สรุป
DIN 8555 : E 3-UM-600 เป็นลวดเชื่อมผิวแข็งที่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งสูงมาก และทนทานต่อการสึกหรอจากการขัดสีและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม มักใช้ในอุตสาหกรรมหนัก เช่น เหมืองแร่ การก่อสร้าง และการผลิตปูนซีเมนต์